วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เบิกบานและงดงาม

      วาดสายตาหาความงามของผืนดิน
      ท่อมท่องไปทั่วถิ่นสูดกลิ่นโลก
      ท่ามกลางระหว่างสุขทั้งทุกข์โศก
      ผ่านทั้งวิปโยคและอารยะ
      เพียงเพราะเป็นมนุษย์จึงมีกวี
      แสวงหาเสี้ยวดีจากทุกขณะ
      มิใช่ต้องจำยอมด้วยภาระ
      หากนั่
      นคือพันธะฐานะมนุษย์
      เรียนรู้ชีวิตเพื่อจะเบิกบาน
      ในห้วงสงสารอันไม่สิ้นสุด
      ทำความเข้าใจตามอัตวิสัยวัยวุฒิ
      ไม่ดูดายไม่เร่งรุด-ที่สุดอย่
      างนั้น
      แล้วยังมีลมหายใจจึงไม่ไร้หวัง
      ได้ตรึกตรองใฝ่ฟังภาวะฝัน
      ลองเลาะเรียงลำดับความมหัศจรรย์
      มิใช่นิ่งอยู่เงียบงันอย่
      างเฉยชา
      ด้วยความเบิกบานและงดงาม
      อบอวลอยู่ท่ามการแสวงหา
      เรียงรายในทางที่เป็นมา
      เปล่
      งประกายคุณค่าบนทางไป
      ไม่เพียงเท่านั้นอาจเท่านั้นเป็นอย่างนี้
      ซึ่งล้วนสิ่งใดมีอยู่
      แบบไหน
      ผลึกรู้สึกสำนึกในภายใน
      เปล่
      งอานุภาพยิ่งใหญ่หรือไม่เลย
      ยุคสมัยขับเคลื่อนแม้ถ้อยคำ
      สั
      กความหนึ่งกล่าวนำค้นคำเฉลย
      ว่าชีวิตลิขิตฟ้าหรือละเลย
      อาจบางคราวชินเฉยต่อชีวิต
      ด้วยความเบิกบานและงดงาม
      ดำรงอยู่ในยามสิ่งสู่สถิต
      วาดสายตาคีตกวีเนรมิต
      ดลบั
      นดาลชีวิตสู่อารยะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น