วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

สายน้ำ


        สายน้ำ........
        ล่องเลื้อยทอลำกว้างใหญ่
        ลัดเลาะโขดเขาแนวไพร
        ทอดยาวสู่แผ่นดินไกล กว่าฟ้า

          สายน้ำ........
          ซ่อนความลึกล้ำแห่งหล้า
          ล้วนสิ่งจริงแท้ใช่แค่มายา
          ผ่านช่วงเวลาฤดูกาล

          สายน้ำ..........
          สิงสู่ทรงจำเมื่อผ่าน
          ไหลไปคล้ายนิ่งแน่นาน
          ภาพเดียวดั่งวันวาน-วันนี้

          สายน้ำ..........
          กระซิบบอกบางคำระหว่างวิถี
          ภาวะแห่งคุณค่า บางที
          เงือนไขย่อมมีปัจจัย

          สายน้ำ.........
          คลางครวญหวนร่ำท่ามยุคสมัย
          ชี้แจงแสดงเหตุเภทภัย
          เป็นเงื่อนงำความนัย หายนะ

          สายน้ำ........
          ไหลเป็นลำนำสัจจะ
          แปรเปลี่ยนเวียนผันสภาวะ
          เข้าใจภาระแห่งสายน้ำ.......

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

วันเวลาที่เหลืออยู่


          มากไม่มากเท่าใดหัวใจว่า
          มีบางความปรารถนาไม่ถึงฝัน
          แต่ผ่านพบบางสิ่งมหัศจรรย์
          แทรกอยู่ในคืนวันที่ผ่านไป

          เริ่มต้นอีกครั้ง และอีกครั้ง
          ด้วยพลังทั้งหวังและฝันใฝ่
          รู้ก็รู้ว่าทางทั้งหมดไกลกว่าไกล
          และอาจมิอาจถึงได้ ณ ปลายทาง

          นั่นก็ไม่ใช่เงื่อนไขให้ทดท้อ
          ก้าวต่อก้าวเพียงพอต่อค่าก้าวย่าง
          ถึงทุกถึงทุกเท้าที่แนบวาง
          แล้วหลายสิ่งหลายอย่างก่อปรากฏการณ์

          ทั้งไม่เหลืออะไรมากมายนัก
          จึงเข้มข้นต่อการประจักษ์และต่อสาน
          เป็นทางที่มุ่งสู่ปัญญาญาณ
          ก่อนร่างเป็นการงานแห่งชีวิต

          มีภาระน้อยลงเมื่อถึงตรงนี้
          ในคุณค่าพอดีดำรงสถิตย์
          ช้าลงแต่ก้าวหน้าไปทีละนิด
          น้อยลงแต่คงทิศและยืนยัน

          มากไม่มากเท่าใดไม่รู้แล้ว
          รับรู้อย่างแน่แน่วและเคี่ยวกลั่น
          ความคิดใคร่ครวญค่าพบเท่าทัน
          ด้วยพลังสร้างสรรค์อันแท้จริง

ทุ่งท้องฟ้าเก่า





      มาถึงทุ่งท้องฟ้าเก่าของเราอีกครั้ง
      แสงเดือนยังเปล่งปลั่งประกายฉาย
      ลมพลิ้วพัดใบไม้ร่วงโปรยปราย
      ฤดูหนาวไม่ร้าวร้ายดังก่อนมา
      ฟ้าเปลี่ยนดินเปลี่ยนเราก็เปลี่ยน
      หนักเบาก็รับเรียนรู้คุณค่า
      ทางไกลพาจากพรากกาลเวลา
      ทางกลับก็ปรารถนาจะค้นพบ
      ไม่เหลืออะไรมากมายเท่าไหร่นัก
      พอได้ต่อทอถักจวบวันจบ
      จากเช้าสายบ่ายค่ำถึงยามพลบ
      ต่อราตรีทวีทบทับท่วงทาง
      ยังทำความเข้าใจในตัวตน
      แสวงหาสืบค้นพ้นวาง-ว่าง
      ในความมีไม่มี กร้าว-เปราะบาง
      ทั้งแจ้งใจทั้งเลือนรางแต่บางคราว
      ขึ้นล่องลัดเลาะทางเลี้ยวลด
      โค้งขุนเขาเคี้ยวคดก็บอกกล่าว
      สะท้อนสภาวะทางทอดยาว
      สะเทือนสั่นดั้นด้าวแผ่นดินแดน
      กลับมาถึงทางกลับก็ทางต่อ
      เหนื่อยหนักนักระทดท้อก็เหลือแสน
      บางครั้งพลังใจก็ขาดแคลน
      หยั่งรากยึดแนบแน่นอย่างยืนยัน
      ดีร้ายหน่ายล้าชะตากรรม
      เพียงหยัดยืนย่างย่ำอย่างสร้างสรรค์
      เผชิญทุกภาวะต่อตามทัน
      พบ พลาดก็เท่านั้นทำความเข้าใจ
      เมื่อมาถึงทุ่งฟ้าเก่าของเราอีกครั้ง
      เสี้ยวแสงหวังยังส่องประกายใส
      ที่สุดไม่ว่าจะพบภาวะเช่นไร
      ถึงทางใกล้ทางไกลยังท่องเทียว
      พบบางสิ่งสิ่งหวังไม่เห็นหน
      นั่นก็ยิ่งเข้มข้นยิ่งขับเคี่ยว
      จะทางกลับทางไปก็ทางเดียว
      ทางลัดเลาะลดเลี้ยวโลกนอก-ใน...

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ความฝันที่เธอมีอยู่ในฝัน

      ซุกซ่อนเอาไว้ทำไมกัน
      สิ เผื่อแผ่แบ่งปัน ฉันกับเธอ

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ทุ่งทางวิถีเที่ยวท่องเสมอ

      โลกงดงามอย่างไรได้พบเจอ
      บอกกันบ้างเผื่อพลั้งเผลอลืมเพ่งมอง

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ลำนำใดวารีเธอเลาะล่อง

      สายน้ำฉ่ำไหลใจเธอปอง
      ก่อนสู่
      ท้องทะเลว้างถึงกลางทะเล

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      วันคืนใดในเดือนปียังร่อนเร่

      ซากเมืองโทรมทรุดพ่ายพังเพ
      เศษเสี้ยวความว้าเหว่หรือเล่ร้าย

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ความเชื่อความดีถึงความหมาย

      ความหลง ลมพัดกระจัดกระจาย
      บางภาวะเดี
      ยวดาย-สภาวะ

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ถึงบางความย่ำยีบางขณะ

      ระหว่างชีวิตกับภาระ
      ถิ่นฐานสถานะ กาลยุค

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      แสงหวังหลากแสงสีสิ่งสุข

      เงาหม่นทึบเทาเงาทุกข์
      สะดุ
      ดล้มแล้วลุกอย่างไร

      บอกกับฉันเถิด-บอกฉันวันนี้
      ชีวิตบางทีหวาดหวั่นไหว

      เธอเข้มแข็งหรืออ่อนโยนได้เพียงใด
      ความรักยังมีใช่ไหม ณ วันนี้

ในซากปรักหักพัง...มีความหวังที่งดงาม



ในซากปรักหักพัง

มีกำเนิดความหวังผุดแย้ม

สอดขึ้นมาในซอกแซม

แต่งแต้มเติมซากอันพังเพ

หนึ่งยอดหญ้านั้นเหยียดยอด

ผลิใบเสียดสอดมิแสร้งเส

ทั้งมิได้เนิ่นนานกาลกาเล

ธรรมชาติพร้อมเห่ให้สมดุล